ทุกวันนี้เวลาจะเดินทางไปไหน ซอยไหนในเมืองก็หนีไม่พ้นรถติด ทำให้ชาวสองล้ออย่างเราต้องขี่ซอกแซกเพื่อให้ถึงที่หมายไวๆ แต่รู้หรือไม่ ถ้าขี่ผิดเลนอาจโดนใบสั่งแบบไม่รู้ตัว โดยเฉพาะไบเกอร์ที่ใช้รถมอเตอร์ไซค์ในการเดินทางเป็นหลัก ต้องรู้กฎให้ชัดว่าจริงๆ แล้วมอเตอร์ไซค์ต้องขี่เลนไหน เพราะมีหลายคนเชื่อว่าขี่ช้าก็อยู่ไหล่ทางหรือเลนซ้าย ขี่เร็วอยู่เลนขวาก็ถูกต้องแล้ว
วันนี้เราเลยจะพาไปไขข้อสงสัยให้กระจ่างกันว่า จริงๆ แล้วมอเตอร์ไซค์ขี่เลนไหนถึงจะถูกต้อง ไม่ผิดกฎหมาย เพื่อความปลอดภัยและไม่เสี่ยงโดนใบสั่ง!
กฎหมายจราจรเบื้องต้นที่ชาวไบเกอร์ต้องรู้
ความปลอดภัยในการขับขี่เป็นสิ่งที่ชาวสองล้ออย่างเราต้องใส่ใจมากๆ และทำตามอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของตัวเองและคนใช้ถนนร่วม โดยเฉพาะกฎหมายเกี่ยวกับการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ที่ไบเกอร์ต้องรู้เอาไว้ ดังนี้
- ห้ามใช้ความเร็วเกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเขตกรุงเทพฯ เมืองพัทยา เขตเทศบาล แต่ถ้าเป็นนอกเขตกรุงเทพฯ พัทยาและเขตเทศบาล สามารถใช้ความเร็วได้ไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และในส่วนที่มีเครื่องหมายจราจรกำหนดความเร็วไว้ ต้องห้ามขี่เกินความเร็วที่กำหนด
- ห้ามบรรทุกของเกิน 50 กิโลกรัม และสามารถนั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ได้ 1 คนเท่านั้น
- ก่อนเลี้ยวรถ เปลี่ยนเลน ลดความเร็ว หรือหยุดจอดรถ ต้องให้สัญญาณด้วยมือหรือแขน หรือไฟสัญญาณเป็นระยะทางไม่น้อยกว่า 30 เมตร
- ต้องระมัดระวังไม่ให้รถชน หรือโดนคนเดินเท้าไม่ว่าจะอยู่ส่วนใดของทาง และต้องให้สัญญาณเตือนคนเดินเท้าให้รู้ตัวเมื่อจำเป็น
- ต้องขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ในเลนซ้ายและต้องไม่ล้ำกึ่งกลางของเลน เว้นแต่เลนซ้ายมีสิ่งกีดขวางหรือถูกปิดการจราจร หรือเจ้าพนักงานกำหนดให้เป็นทางเดินรถทางเดียว หรือเลนกว้างไม่ถึง 6 เมตร
- รถมอเตอร์ไซค์ที่ขับขี่ด้วยความเร็วช้า หรือมีความเร็วต่ำกว่าความเร็วของรถคันอื่นๆ ที่ขับขี่ในทิศทางเดียวกัน จะต้องขี่ให้รถใกล้กับขอบทางด้านซ้ายเท่าที่จะทำได้
มอเตอร์ไซค์ขี่เลนไหน ถูกต้อง ปลอดภัย ไร้ใบสั่ง
และนี่คือกฎหมายการขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ถูกระบุไว้ใน พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 เพื่อตอบคำถามในประเด็นที่ว่า มอเตอร์ไซค์ต้องขี่เลนไหน? ถึงจะไม่ผิดกฎจราจรเบื้องต้น
มาตรา 33
ระบุไว้ว่า ‘ผู้ขับขี่ต้องขับรถในทางเดินรถด้านซ้าย และต้องไม่ล้ำกึ่งกลางของทางเดินรถ’ ยกเว้นในกรณีต่อไปนี้
- ด้านซ้ายของทางเดินรถมีสิ่งกีดขวาง หรือถูกปิดการจราจร
- เจ้าพนักงานกำหนดให้ทางเดินรถนั้นเป็นทางเดินรถทางเดียว
- ทางเดินรถกว้างไม่เกิน 6 เมตร
มาตรา 34
สำหรับมาตรา 34 ระบุไว้ว่า ‘ในการใช้ทางเดินรถที่ได้จัดแบ่งช่องทางเดินรถในทิศทางเดียวกันไว้ ตั้งแต่ 2 ช่องขึ้นไป หรือได้จัดช่องทางเดินรถประจำทางไว้ในช่องทางซ้ายสุด ผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ต้องขับในช่องซ้ายสุด หรือใกล้กับช่องทางรถประจำทาง เว้นแต่ในกรณีดังนี้
- ทางเดินรถนั้น เจ้าพนักงานกำหนดไว้เป็นช่องทางเดินรถทางเดียว
- ในช่องเดินรถมีสิ่งกีดขวาง หรือถูกปิดการจราจร
- จะต้องเข้าช่องให้ถูกต้องเมื่อเข้าใกล้บริเวณทางร่วม ทางแยก
- ถ้าต้องการแซงขึ้นหน้ารถคันอื่น
- เมื่อใช้ความเร็วสูงกว่ารถในช่องทางซ้าย
มาตรา 35 (2)
ในมาตรา 35 วรรค 2 ระบุว่า ‘ในกรณีที่ถนนมีสองเลน รถมอเตอร์ไซค์ต้องขับขี่ในเลนซ้ายสุด หรือรถที่มีความเร็วช้า หรือรถที่มีความเร็วต่ำกว่ารถคันอื่นที่ขับในทิศทางเดียวกัน ผู้ขับขี่จะต้องขับขี่ให้ใกล้ขอบทางเดินรถด้านซ้ายมากที่สุด’

เมื่อรู้ว่าแล้วว่ามอเตอร์ไซค์ต้องขี่เลนไหนถึงจะถูกต้องตามกฎหมาย อีกหนึ่งสิ่งที่ไบเกอร์ต้องรู้ก็คือ ‘เส้นแบ่งเลน’ บนถนนที่ช่วยให้นักบิดอย่างเราขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ได้ปลอดภัยมากขึ้น โดยเส้นแบ่งเลนหลักๆ จะถูกแบ่งออกเป็น 2 เส้นด้วยกัน คือ เส้นขาวและเส้นเหลือง ซึ่งแตกต่างกันดังนี้
- เส้นสีขาว คือ เส้นช่องทางจราจรที่ใช้สำหรับถนนที่มีการจราจรในทิศทางเดียวกัน
- เส้นสีเหลือง ใช้สำหรับถนนที่มีการจราจรในทิศทางตรงกันข้าม ซึ่งไบเกอร์ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษในการขับขี่เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ
หลังจากรู้ความหมายของเส้นแบ่งเลนสีขาวและสีเหลืองแล้ว ต่อมาคือการใช้เส้นทึบและเส้นประ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่เห็นได้บ่อยๆ บนท้องถนน โดยมีความหมายดังนี้
- เส้นประสีขาว คือ เส้นแบ่งช่องทางการจราจรปกติ ที่ทั้ง 2 ช่องทาง จะใช้การขับขี่ไปในทิศทางเดียวกัน ถ้าเจอเส้นนี้ไบเกอร์จะต้องอยู่ในช่องจราจรนั้นๆ เท่านั้น ไม่สามารถขี่คร่อมเลนหรือคร่อมเส้นได้ แต่สามารถเปลี่ยนเลนเพื่อแซงได้เมื่อปลอดภัย
- เส้นประสีเหลือง คือ เส้นแบ่งเลนปกติเช่นเดียวกับเส้นประสีขาว แต่ทั้ง 2 ช่องทาง จะเป็นการขับขี่ที่สวนกัน สามารถแซงได้เมื่อเห็นว่าข้างหน้าปลอดภัย ไม่มีรถขับสวนมา และเมื่อแซงขึ้นไปแล้วจะต้องรีบกลับเข้าช่องทางเดินรถที่ถูกต้องทันที
- เส้นทึบสีขาว คือ เส้นแบ่งช่องทางเดินรถ หากเจอเส้นนี้ไบเกอร์จะไม่สามารถเปลี่ยนเลนหรือขี่แซงได้ ซึ่งเส้นทึบขาวนี้จะอยู่บริเวณไหล่ทางหรืออยู่ถึงก่อนแยกจราจรนั่นเอง
- เส้นทึบเหลือง คือ เส้นแบ่งช่องทางเดินรถที่สวนกัน หากเจอเส้นนี้ต้องรู้ไว้เลยว่าไม่สามารถแซงได้ เพราะเป็นจุดอับสายตา เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ
- เส้นทึบคู่สีขาว ถ้าเจอเส้นนี้หมายความว่าไม่สามารถแซง เปลี่ยนเลน ขี่คร่อมเส้นหรือทับเส้นได้ ต้องขับขี่อยู่ภายในเลนตัวเองเท่านั้น
- เส้นทึบคู่สีเหลือง คือ เส้นทึบกลางถนนซึ่งเป็นเส้นแบ่งการจราจรที่ห้ามแซง หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าเส้นทึบห้ามแซง ไบเกอร์ต้องระวังให้มากถ้าเจอเส้นนี้เพราะไม่สามารถเปลี่ยนเลนได้ และห้ามขี่คร่อมเส้นโดยเด็ดขาด!
- เส้นทึบคู่กับเส้นประ คือ เส้นแบ่งทิศทางจราจรห้ามเปลี่ยนเลนหรือแซงเฉพาะด้าน เช่น หากขี่รถมอเตอร์ไซค์มาฝั่งเส้นทึบ จะไม่สามารถเปลี่ยนเลนหรือขี่แซงได้ แต่ถ้าขี่มาทางเส้นประจะเปลี่ยนเลนหรือแซงได้เมื่อเห็นว่าข้างหน้าปลอดภัย
ได้รู้แล้วว่ามอเตอร์ไซค์ขี่เลนไหนถึงจะถูกต้องตามกฎจราจร ก็อย่าลืมทำความเข้าใจกับจุดเล็กๆ น้อยๆ อย่างเส้นแบ่งเลนด้วย เพียงแค่นี้ชาวไบเกอร์ก็สามารถขี่รถมอเตอร์ไซค์ได้อย่างปลอดภัยและไม่เสี่ยงถูกปรับแล้ว

Sangchaimotorsale Line
สนใจรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า
ยามาฮ่า เชียงใหม่ แสงชัยมอเตอร์เซลส์ สาขา ราชดำเนิน (สำนักงานใหญ่)
เวลาทำการ: 08:00น.-17:00น.
โทรศัพท์: 053 225 28
ยามาฮ่า เชียงใหม่ แสงชัยมอเตอร์เซลส์ สาขา รวมโชค
เวลาทำการ 08:30น.-17:30น.
โทร 053-114817
ยามาฮ่า เชียงใหม่ แสงชัยมอเตอร์เซลส์ สาขา โชตนา
เวลาทำการ 08:00น.-17:00น.
โทร 053-111969
ยามาฮ่า เชียงใหม่ แสงชัยมอเตอร์เซลส์ สาขาเซ็นทรัลแอร์พอร์ต
เวลาทำการ 08:30น.-17:30น.
โทร 0987499860
ยามาฮ่า เชียงใหม่ แสงชัยมอเตอร์เซลส์ สาขา บวกครก
เวลาทำการ 09:00น.-18:00น
โทร 053-241156
ยามาฮ่า เชียงใหม่ แสงชัยมอเตอร์เซลส์ สาขา กาดสามแยกสันทราย
เวลาทำการ 09:00น.-18:00น.
โทร 053492546
ยามาฮ่า เชียงใหม่ แสงชัยมอเตอร์เซลส์ สาขา สันป่าข่อย
เวลาทำการ 09:00น.-18:00น.
โทร 053144651
ยามาฮ่า เชียงใหม่ แสงชัยมอเตอร์เซลส์ สาขา ราชภัฏเชียงใหม่
เวลาทำการ 08:00น.-17:00น.
โทร 0629756438
ยามาฮ่า เชียงใหม่ แสงชัยมอเตอร์เซลส์ สาขา หนองหอย สันป่าเลียง
เวลาทำการ 08:00น.-17:00น.
โทร 053803111
ยามาฮ่า เชียงใหม่ แสงชัยมอเตอร์เซลส์ สาขา กาดธานินธ์
เวลาทำการ 08:00น.-17:00น.
โทร 053-215291
ยามาฮ่า เชียงใหม่ แสงชัยมอเตอร์เซลส์ สาขา แม่โจ้
เวลาทำการ 09:00น.-18:00น.
โทร 096 516 3824