4 เคล็ดไม่ลับ เตรียมตัวก่อนไปทำใบขับขี่มอเตอร์ไซค์อย่างไรให้ผ่านฉลุยในรอบเดียว!

ก่อนที่จะขับขี่ยานพาหนะอย่างรถมอเตอร์ไซค์บนท้องถนนนั้น สิ่งที่ผู้ขับขี่ควรต้องมีเป็นอันดับแรกก็คือใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญที่ออกให้โดยกรมการขนส่งทางบก ดังนั้นวันนี้เราจึงจะมาแนะนำวิธีเตรียมตัวทำใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ให้กับเหล่าไบค์เกอร์มือใหม่ในจังหวัดเชียงใหม่กัน จะต้องเตรียมตัว เตรียมเอกสารอะไรบ้าง ไปดูกัน

ก่อนอื่นต้องรู้จักสถานที่กันก่อน สำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งอยู่ที่ 192 หมู่ 7 ต.แม่เหียะ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 50100 ก่อนถึง Big C แม่เหียะ เชียงใหม่ ขั้นตอนการทำใบขับขี่มีดังต่อไปนี้

จองคิวอบรมสำหรับทำใบขับขี่มอเตอร์ไซค์

    ก่อนจะทำการสอบใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบและขั้นตอนของกรมการขนส่งทางบกที่ได้กำหนดไว้ ผู้ขอรับใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์ใหม่ จะต้องผ่านการอบรมหลักสูตร การอบรมและทดสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์ 5 ชั่วโมง(กรณีที่อบรมกับกรมการขนส่งทางบก) หรือในกรณีที่อบรมกับทางโรงเรียนสอนขับรถที่ได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งทางบกจะต้องอบรมหลักสูตร 15 ชั่วโมง โดยช่องทางการจองคิวอบรมสำหรับทำใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ สามารถจองได้ 4 ช่องทาง ดังนี้

  • จองคิวผ่านเว็บไซต์  https://gecc.dlt.go.th/
  • กรมการขนส่งทางบกหรือสำนักงานขนส่งฯ ใกล้บ้าน
  • จองผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue

จองคิวผ่านทางโทรศัพท์ เบอร์ 0-2271-8888 ต่อ 4201-4 หรือเบอร์ 1584

หลังจากที่ทำการจองคิวอบรมใบขับขี่มอเตอร์ไซค์เรียบร้อยแล้ว ผู้ขับขี่จะต้องเตรียมเอกสารสำหรับใช้ยื่นเรื่องดำเนินการ ดังนี้

  • บัตรประชาชนตัวจริง และสำเนาอย่างละ 1 ฉบับ 
  • ใบรับรองแพทย์ ที่มีอายุไม่เกิน 1 เดือน เพื่อยืนยันตนเองว่าไม่ได้เป็นโรคต้องห้ามที่อยู่ในข้อกำหนด
  • **ในกรณีที่ผู้ขับขี่ทำการอบรมนอกกรมขนส่ง ต้องเตรียมเอกสารใบรับรองการอบรมมาประกอบด้วย

เมื่อยื่นเอกสารเสร็จแล้วจะเข้าสู่ขั้นตอนของการทดสอบร่างกาย โดยการทดสอบร่างกายจะมีดังนี้

  • ทดสอบตาบอดสี
  • ทดสอบสายตาทางลึก
  • ทดสอบสายตาทางกว้าง
  • ทดสอบปฏิกิริยาเท้า (ความสามารถในการใช้เบรกเท้า)

สอบภาคทฤษฏี

  • หลังจากที่เตรียมเอกสารทำใบขับขี่ มอเตอร์ไซค์เรียบร้อยแล้ว ก็จะเข้าสู่ช่วงรับการอบรมเป็นระยะเวลา 5 ชั่วโมง ในหลักสูตรขอรับใบอนุญาตขับขี่ใหม่ โดยจะประกอบไปด้วยหัวข้อดังนี้
  • กฎหมายที่เกี่ยวข้อง (กฎหมายรถจักรยานยนต์ กฎหมายแพ่ง กฎหมายจราจรทางบก เครื่องหมายจราจร การบำรุงรักษารถ เป็นต้น)
  • จิตสำนึกและมารยาทในการขับขี่
  • ข้อปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน การให้ความช่วยเหลือและการปฐมพยาบาล

เมื่อทำการอบรมเสร็จแล้ว ต่อมาก็จะเป็นการสอบภาคทฤษฎี จำนวน 50 ข้อ โดยสามารถเข้ารับการทดสอบด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (E-exam) ซึ่งจะต้องผ่านเกณฑ์ประเมิน 90 % (45 ข้อ) หากสอบไม่ผ่านจะต้องทำการสอบใหม่ในวันถัดไป หรือไม่เกิน 90 วันหลังสอบ

สอบภาคปฏิบัติ

มาถึงขั้นตอนสุดท้ายของการทำใบขับขี่ มอเตอร์ไซค์ ก็คือการสอบภาคปฏิบัติ โดยในการสอบภาคปฏิบัติเพื่อขอรับใบขับขี่ มอเตอร์ไซค์จะมีการทดสอบด้วยกันทั้งหมด 5 ท่า ดังนี้

1.การขับรถโดยปฏิบัติตามเครื่องหมายจราจร

จะเป็นการสอบด้วยการขับรถจักรยานยนต์ไปตามเส้นทางที่ถูกกำหนดไว้ ซึ่งผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติตามป้ายจราจรให้ถูกต้อง

2.การขับรถทรงตัวบนทางแคบ

ผู้เข้ารับการอบรมและทดสอบจะต้องทำการขับขี่รถจักรยานยนต์ทรงตัวบนกระดานแคบที่มีความยาว 15 เมตร และต้องทรงตัวให้ได้มากกว่า 10 วินาทีขั้นไปจึงจะถือว่าสอบผ่าน

3.การขับรถผ่านทางโค้งรัศมีแคบ รูปตัว Z

ผู้ขับขี่จะต้องขับรถในช่องทางเดินรถรูปตัว Z ที่มีความกว้างประมาณ 2 เมตร โดยห้ามชนสิ่งกีดขวางต่างๆ ตลอดเส้นทาง

4.การขับรถผ่านทางโค้งซ้ายและขวา รูปตัว S

ผู้ขับขี่ต้องขับรถในช่องทางเดินรถรูปตัว S ที่มีความกว้างประมาณ 2 เมตร และไม่ชนสิ่งกีดขวางตลอดเส้นทาง

5.การขับรถหลบหลีกสิ่งกีดขวาง

ผู้ขับขี่จะต้องขับรถด้วยความเร็ว 20 กิโลเมตร/ชั่วโมง บนเส้นทางที่กำหนดไว้ให้ โดยห้ามขับชนสิ่งกีดขวางใดๆ ตลอดทั้งเส้นทาง

ชำระค่าธรรมเนียมและถ่ายรูปติดบัตร

หลังจากผ่านการทดสอบทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติแล้ว จะต้องทำการชำระค่าธรรมเนียมและค่าบริการรวมทั้งสิ้น 205 บาท โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้

  • ค่าธรรมเนียมขอมีบัตร 5 บาท
  • ค่าทำใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว 100 บาท
  • ค่าถ่ายรูปติดบัตรสมาร์ตการ์ด 100 บาท

    เพียงแค่นี้คุณก็จะได้รับใบขับขี่ มอเตอร์ไซค์เป็นของตนเองและสามารถขับขี่รถจักรยานยนต์คู่ใจไปได้ทุกที่ ไม่ว่าจะในเมืองหรือออกทริปต่างจังหวัดอย่างถูกฎหมายและหายห่วงเมื่อโดนเจ้าหน้าที่เรียกตรวจแล้ว ซึ่งทั้งหมดนี้คือเคล็ดลับในการเตรียมตัวสอบใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ให้ผ่านฉลุยในรอบเดียว ที่ทางเรานำมาฝากชาวไบค์เกอร์มือใหม่ ในจังหวัดเชียงใหม่ หรือบุคคลที่ต้องการจะทำใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ให้ได้รู้และเตรียมตัว เตรียมเอกสารสำหรับทำใบขับขี่มอเตอร์ไซค์กันก่อน เมื่อจองคิวและไปถึงสถานที่สอบแล้วจะได้ไม่ต้องเสียเวลา

Sangchaimotorsale Line